4 สิ่ง วางแผนธุรกิจในอีก 10 ปีข้างหน้า

ถ้าถามถึงว่าในอีก 10 ปี ข้างหน้า สภาวะเศรษฐกิจของไทยจะเป็นอย่างไร จะดีขึ้นหรือแย่ลง มันเป็นสิ่งที่บอกไม่ได้เลยเพราะมันเป็นเรื่องของอนาคต เจ้าของธุรกิจหลายท่านคงจะคิดว่า
เอาตอนนี้ให้รอดให้ดีกว่าไหม” ก่อนที่จะไปนึกถึงอนาคต คำพูดนี้จริงอยู่ ว่ามันเป็นเรื่องของอนาคตแต่คงจะดีกว่าถ้าคุณวางแผนให้กับธุรกิจคุณไว้ล่วงหน้า 10 ปี

ซึ่งจริงๆแล้ว  4 สิ่ง ที่เรากำลังจะ พูดต่อไปนี้ ก็เป็นสิ่งที่ทุกธุรกิจควรจะใส่ใจ หรือหันมาใส่ใจกับสิ่งเหล่านี้อย่างจริงจังสักทีเพราะถ้าเริ่มทำตั้งแต่ตอน นี้ ปัญหาที่คาดว่าอีก 10 ปี จะเกิดก็อาจไม่เกิดเลยก็ได้

1. ต้องเข้าใจธุรกิจตัวเอง

               เจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่มักจะบอกตัวเองว่า  ฉันเป็นเจ้าของ ดังนั้นฉันจะรู้ดีที่สุด ว่าธุรกิจฉันเป็นอย่างไร ต้องทำความเข้าใจกันสะใหม่นะครับว่า ความเข้าใจไม่ใช่แค่รู้ว่าธุรกิจทำอะไร ขายอะไร มีบริการอะไร แต่ต้องรู้ลึกเข้าไปอีกถึงจุดแข็ง จุดด้อย จุดดี จุดเด่น ของธุรกิจและสินค้าหรือบริการของตนเอง กลุ่มเป้าหมายของเราคือใคร ธุรกิจอย่างเราเหมาะกับอะไร หรือไม่เหมาะกับอะไร ถ้าคำถามเบื้องต้นเหล่านี้ยังไม่สามารถตอบได้ ธุรกิจคุณนั้นถึงขั้นวิกฤตแล้ว คุณต้องกลับไปทำความเข้าใจกับธุรกิจของคุณ เพราะการรู้จักธุรกิจของตัวเอง เวลามีปัญหาอะไรก็จะสามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุดมากที่สุด

2. 
อย่ามัวแต่หาลูกค้าใหม่ รักษาลูกค้าเก่าด้วย

               ถามว่าการรักษาลูกค้าเก่าถือเป็นการวางแผนล่วงหน้า 10 ปีอย่างไร สิ่งสำคัญในการทำธุรกิจคืออะไร?? คำตอบที่ได้เลยคือ ลูกค้า!! ใช่เลยยลูกค้า ถ้าไม่มีลูกค้าก็จะไม่มีร้านค้าเกิดขึ้นใหม่มากมายแบบนี้  แต่การหาลูกค้าไม่ใช่เรื่องยาก การรักษาลูกค้าเก่าไว้ได้ต่างหาก คือสิ่งทีทำยากกว่า  เหมือนกับประโยคที่ว่า การได้แชมป์ไม่ใช่ที่ยาก การรักษาแชมป์เป็นสิ่งที่ยากกว่า ถ้าสมมุติว่า ต่อไปข้างหน้าอีก 10 ปี มีสินค้าที่ออกมาเหมือนกับของเราทุกอย่างเลย คุณก็ไม่จำเป็นต้องกลัวว่าสินค้าร้านใหม่นั้นจะแยกลูกค้าไปจากคุณ  ถ้ารักษาลูกค้าเก่าไว้ได้อย่างดีก็ไม่ต้องกลัวว่าลูกค้าจะลดน้อยลงไป

3. เตรียมแผนไว้หลายๆแผน

               คนเป็นเจ้าของธุรกิจที่ดีต้องรู้จักมองการไกล ต้องมองผลในระยะยาว ต้องทำตัวเหมือนเป็นนักพยากรณ์ผู้หยั่งรู้อนาคตได้ ลองคำนวณดูซิว่า ต่อไปอีก5 ปี ธุรกิจเราจะเป็นอย่างไร อีก10 ปีธุรกิจเราจะไปยืนอยู่ตรงจุดไหน และคิดเผื่อไว้เลยจะต้องเจอกับปัญหาอะไรบ้าง เมื่อเรามองเห็นภาพกว้างๆของธุรกิจในอนาคตแล้ว ทีนี้ถึงขั้นตอนที่เราต้องหาทางออกว่า ถ้าเราเจอปัญหาหรือวิกฤตแบบนี้ ธุรกิจจะวิ่งไปทางไหนดี ถ้าจะแบบนี้จำทำยังไงต่อดี เหมือนการทำแผนสำรองเอาไว้ ขนาดเล่นกีฬายังมีตัวสำรองเลย แล้วทำไมการทำธุรกิจถึงจะไม่มีแผนสำรองละ เกิดวันดีคืนดี เจอปัญหาแบบที่คิดไว้เข้า อาจจะไม่ต้องรอถึง 5 ปีก็ได้นะ แต่เรามีแผนรับมือได้ก็ไม่ต้องก่วงว่าจะผ่านปัญหานั้นไปไม่ได้

4. 
พยายามคิดหาสิ่งใหม่ๆเสมอ

               โลกของธุรกิจมันมีเทรนด์ของมันตลอด ทำไมรถต้องมีรุ่นใหม่ ทำไมมือถือถึงออกรุ่นใหม่ มีฟีเจอร์ใหม่มาตลอด ก็เพราะว่าโลกมันหมุนเร็วขึ้น ของทุกอย่างพึ่งวางขายอีกไม่กี่เดือนก็กลายเป็นของนอกกระแสไปเสียแล้ว ดังนั้นถ้าจะคิดวางแผนในอีก 10 ปีข้างหน้าจริงๆ การกำหนดสินค้าตัวใหม่หรือการทำโปรโมชั่นใหม่ๆ คิดไว้อย่างหรือสองอย่างคงจะไม่พอ ข้อนี้อยากให้เจ้าของธุรกิจคิดไว้ตลอด ว่าเราจะปรับเปลี่ยนสินค้าหรือบริการของเราให้ทันยุคทันสมัยได้อย่างไรบ้าง แต่ที่สำคัญก็อย่าละเลยสินค้าที่มีอยู่แล้ว และอย่าลืมจุดแข็งของธุรกิจว่าเราเกิดมีรายได้ได้จากธุรกิจตัวไหน วินค้าแบบไหน อย่ามัวแต่นั่งดูว่าเทรนด์นี้กำลังมาต้องรีบจับไว้ ทำได้แต่อย่าละเลยของเก่าที่ดีอยู่แล้ว

การวางแผนให้ธุรกิจในอีก 10 ปีข้างหน้าอาจจะฟังดูแล้วเป็นเรื่องที่ยาวไกล แต่พอเอาเข้าจริงๆแต่ละปีแป๊บๆก็ผ่านไปแล้ว ไม่มีประโยชน์ถ้าเราจะมัวแต่มานั่งคิดว่ามันอีกนานยังไม่ถึงเวลาหรอก คุณรู้ได้อย่างไรว่าคู่แข่งทางการตลาดเดียวกับคุณไม่ได้ทำวางแผนในอีก 10 ปี หรือ 15 ปีข้างหน้า การวางแผนถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้นำมาใช้จริงหรือนำมาได้ไม่ตรงตามที่วางไว้ อย่างน้อยเราก็มีแผนในมือ เกิดมีปัญหาก็ไม่ต้องมาปวดหัวอีก

ส่วนใครที่ยังไม่เริ่มทำ แต่มีแผนไว้อยู่แล้วก็เริ่มเลยนะครับความสำเร็จต้องรอให้ใครมามอบให้ อยู่ที่เราเอง ถ้าเราสร้างเองความสำเร็จก็เกิดขึ้นกับตัวคุณเองครับ

ข้อมูลอ้างอิง: incquity.com